Subscribe:

Ads 468x60px


Labels

วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

อบรมฟรี @ Rongrean.com

สวัสดีค่าาาา กลับมาอีกครั้งกับการอบรมสัมมนาฟรีและดี! ครั้งนี้ทาง Rongrean ได้จัดว่าได้อบรม (ทุกอาทิตย์ก็ว่าได้) ขออนุญาติก๊อปมาลงประกาศเลยละกันนะคะ :)
อบรมฟรี หลักสูตรเทคนิคการตลาด-การประชาสัมพันธ์เว็บร้านค้า ขายสินค้าออนไลน์ ทำเว็บขายของ สร้างยอดขายหลักแสน ทำให้เว็บอยู่ในหน้าแรกของ Google และรับฟรี เว็บขายสินค้า ใช้งานได้ทันที
วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 13.00-16.00
จำนวนจำกัด 15 ท่าน
สถานที่: โรงเรียนดอทคอม - บริษัท ออร์จิค จำกัด เลขที่ 33 อาคารราชครู ชั้น 3 ซอย พหลโยธิน 5 (ราชครู) ถนนพหลโยธิน  สามเสนใน  พญาไท  กทม 10400 (ใกล้ สถานีรถไฟฟ้า อารีย์ ลงทางออกที่ 1 เบนซ์ราชครู ) คลิกดูแผนที่
(สิทธิ์อบรมฟรีนี้เฉพาะภายในวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2555 นี้เท่านั้น หลังจากวันดังกล่าวหากต้องการลงทะเบียนเข้าร่วมการอบรมนี้ จะมีค่าลงทะเบียนเรียน 1,500 บาท)
แจ้งยืนยันรับสิทธิ์อบรมฟรี ที่เบอร์ 083-046-6100 หรือ 02-6171942 หรือ อีเมลล์มาที่ admin@rongrean.com 

สมัครช้าหมดสิทธิ์นะคะเพราะที่นั่งเค้ามีจำกัดจริงๆค่ะ!!

วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

บอกคำเดียวว่า "เซ็ง" ค่ะ

ที่เคยบอกว่าจะไปงานสัมมนา Ebay ของ WiseThailand จำกันได้มั๊ยคะ? เค้าจัดสัมมนาวันนี้ค่ะมี 2 รอบ รอบเช้ากับรอบบ่าย ตอนแรกเราจองรอบเช้าไปแล้วตื่นสายค่ะ -_- แต่ทางเค้าเค้าก็บอกว่าสามารถมารอบบ่ายได้ แต่! เราไปไม่ทันค่ะ รถติดมากแถมฝนตกอีก :( อยากฟังสัมมนาครั้งนี้มากค่ะ แต่อะไรๆก็ไม่เป็นใจเลยค่ะ ถ้าใครได้ไปฟังมาก็มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะว่าบรรยากาศการสัมมนาเป็นยังไงบ้าง

อีกเรื่องค่ะ ตอนนี้ถ้าใครสนใจอยากฝึกงานการเขียน Program ภาษา Java ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ RongRean นะคะ เค้ารับสมัครถึงต้นเดือนกุมภาฯค่ะ จริงๆแล้วคนที่เก่งเรื่องการเขียนโปรแกรมหน่อยจะเหมาะกับฝึกงานคอร์สนี้มากค่ะ แต่ถ้าใครไม่เก่ง/ไม่มีประสบการณ์การเขียนโปรแกรม (เหมือนเราเป็นต้น) เค้าบอกว่ามีให้ฝึกอีกแบบนึงเกี่ยวกับพวกเว็บขายของ (E-commerce) แนวๆดูแลเว็บ/พัฒนา/ปรับปรุง/Update อะไรประมาณนั้นค่ะ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสนใจอยู่พอดีเลยค่ะ ฝีกงานครั้งนี้ประมาณ 1-3 เดือน ถ้าผ่านเกณฑ์การฝึกเค้าก็จะรับเข้าทำงานด้วยค่ะ อย่าพลาดโอกาสดีๆกันนะคะ :)

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

ท้อได้แต่อย่าถอย!

ความสำเร็จมักจะไม่ได้มาอย่างง่ายๆ ต้องใช้เวลาและความอดทนค่ะ เดือนนี้เป็นเดือนที่ 2 สำหรับเราที่กำลังอยู่ในช่วงศึกษา E-Commerce ทั้งแบบ B2C และ B2B ค่ะ ... B2C (Business to Consumer) ก็อาจจะเป็นพวก Ebay, Aliexpress, Taobao, Amazon, Ubid, และเว็บอื่นๆอีกมากมาย ส่วน B2B ก็มีเยอะเหมือนกันนะคะ จะยอกตัวอย่างเว็บอันดับต้นๆเลยก็จะมี Alibaba, EC21, ECPlaza, Tradeindia, DIYTrade, Exportersindia, Busytrade, Infobanc, Dailytrader, Foreign-Trade เป็นต้นค่ะ เห็นมั๊ยล่ะคะว่าเว็บ Online Trade มีอีกเยอะค่ะ ถ้าเราไม่ศึกษา เราก็จะไม่มีวันรู้เลย เว็บ B2B ที่กล่าวมาข้างต้น สมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ! เราสามารถเข้าไปสมัครและ Post ของขายได้ค่ะ (ส่วนมากนิยมขายส่งค่ะ) ต้องขยัน Post กันหน่อยนะคะ เว็บนึงก็อาจจะให้ Post สินค้าไม่เกิน 50 ชิ้น, 20 ชิ้น, 30 ชิ้นบ้าง แล้วแต่เว็บค่ะ 

ถ้าใครกลัวว่ามันจะยุ่งยาก กว่าจะติดต่อ Suppliers เพื่อเอาให้ส่งให้ลูกค้า (ในกรณีถ้าลูกค้าติดต่อขอซื้อแล้ว) กว่าจะทำเอกสารการค้าต่างๆขึ้นมาได้ (เลยไม่ทำดีกว่า -_- ) จบกันพอดีค่ะ แต่ไม่เป็นไร! เรามีตัวช่วยค่ะ บางคนอาจจะเป็น Broker ให้กับบริษัทที่เค้าส่งออกสินค้าอยู่แล้วเช่น บริษัทที่ส่งออกข้าวไทย เป็นต้น ก็สามารถหารายชื่อบริษัทได้ใน Thairiceexporters ค่ะ บริษัทพวกนี้ยินดีให้เราเป็น Broker อยู่แล้วค่ะ เราอาจจะคิดค่า Com แค่ 2% หรือเท่าไหร่ก็ได้ถ้าลูกค้าตกลงซื้อค่ะ ในกรณีนี้บริษัทข้าวก็จะดำเนินเอกสารทั้งหมดเพื่อส่งไปยังลูกค้า เราก็เหมือนเป็นตัวกลางคอยหาลูกค้าจากต่างประเทศให้เค้า ง่ายแค่นี้เองค่ะ แต่ช่วงแรกอาจต้องใช้เวลาในการติดต่อหรือหาลูกค้าให้มาซื้อกับเรา แต่ถ้าได้ลูกค้าเมื่อไหร่นั้น เค้าจะซื้อกับเราไปอีกนานเลยค่ะ ถ้าใครอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมก็ถามในนี้ได้นะคะ เพราะข้อมูลมันละเอียดค่ะ อธิบายในนี้คงยาวเกินค่ะ :)

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555

Post สินค้าเรียกลูกค้า

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาพูดถึง Alibaba กันค่ะ ถึงตอนนี้ถ้าใครยังไม่รู้จัก Alibaba ก็รู้ไว้นะคะว่ามันคือ เว็บนำเข้า-ส่งออก แบบ Business to Business ที่ใหญ่ที่สุดในโลกค่ะื (Rank อันดับ 1 เลย) บางคนบอกไม่ชอบทำขายส่งแบบเยอะๆ อยากขายปลีกมากกว่า แต่จริงๆแล้วขายส่งไม่ได้ยุ่งยากเลยค่ะ  เอกสารการค้าต่างๆก็สามารถหาใน Google ได้ แค่เราเอารูปแบบเอกสารมาแล้วเปลี่ยนเป็นข้อมูลของเราค่ะ แต่ก่อนที่เราจะทำเรื่องเอกสารการค้า เราต้อง Post สินค้าขายกันก่อนนะคะ ซึ่งเราสามารถสมัครสมาชิกแบบฟรี! หรือแบบเสียตัง (เป็นแสนต่อปี) ก็ได้ค่ะ แน่นอนเราเลือกฟรีอยู่แล้วค่ะ ถ้าสมัครแบบฟรีนั้นเค้าจะให้เรา Post สินค้าลงขายได้ไม่เกิน 50 ชิ้นค่ะ และถ้าเรามีสินค้าเกิน 50 ชิ้นล่ะ ? ก็สมัคร Account ใหม่สิคะ :) สมัครฟรีอยู้่แล้วนิ อิๆ โดย Account  ใหม่จะต้องใช้ชื่อบริษัทใหม่ email ใหม่ แต่ชื่อเราชื่อเดิมได้ไม่เป็นไรค่ะ เมื่อเรา Post เสร็จใหม่ๆ สินค้าของเราก็จะอยู่อันดับแรกๆของหน้าที่ผู้ซื้อค้นหา ยิ่ง Post ตลอดเวลายิ่งอยู่อันดับต้นๆ ซึ่งง่ายต่อการที่ลูกค้าจะเห็นสินค้าเราและติดต่อเราค่ะ 

จากการที่เรา Post สินค้าใน Alibaba ก็มีลูกค้าติดต่อกลับมามากมายค่ะ ส่วนมากจะถาม Quotation Price ซึ่งก็คือ Price และ Minimum Order ของสินค้าเราว่าเราคิดเท่าไหร่ ขั้นต่ำต้องเท่าไหร่ การชำระเงินเป็นแบบไหน (T/T, L/C, D/A,.....) และข้อมูลการขนส่งค่ะ ซึ่งมันทำให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับการสนทนากับลูกค้ามากขึ้นว่าควรให้ข้อมูลแบบไหน ควรจะพูดว่าอะไร ทำนองนี้ค่ะ สำหรับใครที่อยากลองหาอะไรทำ ก็สามารถลองทำ Alibaba ได้นะคะ ถ้ามีลูกค้าติดต่อมาและขอซื้อจริงๆ ก็เป็นโชคของเราค่ะ :)

วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2555

Alibaba Course วันที่สอง

เมื่อวานเหนื่อยไปหน่อยเลยไม่ได้มา Up ค่ะ เอาล่ะค่ะ พอมาถึงวันที่ 2 ของการเรียนคอร์ส Alibaba กับอาจารย์วรเศรษฐ์แล้ว ยิ่งกว่าวันแรกอีกค่ะ เค้าก็จะทบทวนเนื้อหาของวันแรกให้ แล้วก็ตามด้วยเทคนิคต่างๆมากมายในการคุยกับลูกค้า Alibaba ถ้าเราเป็น Exporter เราควรทำไงไม่ให้โดนลูกค้าโกง (ทางที่ดีที่สุดควรใช้ payment แบบ T/T กับ Paypal ค่ะ) ถ้าเราเป็น Importer เราควรทำยังไงไม่ให้โดนผู้ขายโกง ก็จะมีวิธีการคุยกับผู้ขายประมาณว่าทดสอบว่าเค้าเป็น Manufacturer จริงหรือไม่ อย่าเช่นบอกว่าจะไปโรงงานเค้าถึงที่! บอกว่าจะส่ง Staff ไป Check ของที่โรงงานเค้า ขอรูปสินค้าจากโรงงานบ้างอะไรบ้าง ก็เป็นคำถามที่เราควรต้องถามค่ะ แล้วก็ต้องเลือกบริษัทที่เป็น Gold Suppliers 3 ปีขึ้นไป จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่เลยค่ะ ถ้าเรารู้วิธีการ มีไหวพริบ ลองทำดู แล้วประสบการณ์ก็จะค่อยๆสอนเราเอง 

อย่างเรานะคะ ตอนแรกไม่รู้พวกเรื่อง Ebay, Alibaba, Affiliate เลยซักนิด เราเริ่มมาศึกษาจริงจังเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ถึงตอนนี้จะยังไม่มีรายได้ แต่เราก็ได้เรียนรู้และเชื่อว่าอีกหลายๆคนยังไม่รู้ในเรื่องพวกนี้ ใช้เวลาเรียนรู้ไม่นานค่ะ ถ้าเรามีความสนใจและใส่ใจจริงๆ เราใช้เวลาเดือนนิดๆในการเรียนรู้ หลังจากนั้นก็เริ่มทำอย่างจริงจัง ผลจะออกมาเป็นอย่างไรเราไม่รู้ แล้วที่รู้ๆคือ ณ ตอนนี้เรากำลังทำมันอยู่้โดยไม่ปล่อยให้เวลามันผ่านไปโดยปล่าวประโยชน์ค่ะ  อาจมีบางคนที่ยังสับสนในชีวิต บางคนอาจตกงาน บางคนอาจคิดว่าถึงเราไม่มีงานไม่มีเงินพ่อแม่ก็เลี้ยงเราได้ อย่าให้ความคิดเหล่านี้ปล่อยให้คุณเป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งที่ไม่มีอนาคตค่ะ คนเราต้องเดินหน้าอย่าหันหลังกลับเด็ดขาด ปีนึงมันผ่านไปเร็วมากนะคะ ถ้าเราเริ่มก้าวแรกแล้ว เราจะไม่มีก้าวที่ 2 หรอคะ? ด้วยความหวังดีค่ะ :)

วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2555

Alibaba Course วันแรก

เป็นอะไรที่ โหด มว๊ากกกกกกกกก+++++ โหดนี่หมายความว่า เยอะ! แน่น! และ จัดเต็ม! พี่ตรี (วิทยากร) ให้ความรู้เยอะมากค่ะ สัมมนาคอร์สนี้มีคนเข้าร่วมน่าจะประมาณ 50 คนได้ ถือว่าเยอะค่ะ สัมมนาเริ่มตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น หัวใจสำคัญของคอร์สนี้ที่วิทยากรพยายามจะสื่อออกมาคือเรื่องของ Marketing ค่ะ ไม่ว่าเราจะทำการค้า Online กับใครที่ไหนหรือเว็บไหน การตลาดเป็นสิ่งที่สำคัญมากถึงมากที่สุด (เพิ่งมารู้จากคอร์สนี้แหละค่ะ :P ) การทำการตลาดออนไลน์จะทำให้คนทั่วโลกรู้ว่าเรา EXIST!! รู้ว่าเรามีตัวตน และเค้าก็สามารถติดต่อเราได้โดยตรงจากการที่เค้า Search ใน Google ถ้าเราทำให้เว็บของเรา หรือสินค้าของเราติดอันดับแรกของเว็บ Google ได้ อาจจะผ่าน SEO หรือ PPC เราก็หมดห่วงค่ะ แต่ก็ต้องใช้เวลาค่ะในการที่จะทำให้เว็บเราติดอันดับ

จากนั้นพี่ตรีก็จะพูดถึงการเริ่มต้นใน Alibaba เช่น ขั้นตอนการสมัคร การลงขายสินค้า (เน้นรูปสวย เนื้อหาเด่นและครบ Copy เนื้อหาจากเจ้าอื่นได้เพื่อให้เราดูเป็น Professional มากขึ้น hahaha) นอกกจากนี้ยังอธิบายการนำเข้าและส่งออกว่ามันไม่ได้มีอะไรยุ่งยากขนาดนั้น ส่วนมาก Payment คนจะนิยมใช้แบบ T/T และ Paypal ถ้าเราจะใช้ L/C เราก็ต้องเอาทรัพย์สินของเราไปค้ำประกันกับธนาคารก่อน ถ้าใครไม่อยากเสี่ยงก็ให้ใช้เป็น T/T กับ Paypal แทนค่ะ ... T/T ผู้ซื้อจะมีความเสี่ยง 100%  เพราะ เค้าต้องโอนเงินมาให้เราก่อน เราถึงจะส่งของให้เค้า แต่ผู้ขายจะไม่มีความเสี่ยงเลยค่ะ ส่วน Paypal ก็น่าจะคุ้นๆกันอยู่แล้ว Paypal จะเก็บค่าธรรมเนียมประมาณ 3% เวลาผู้ซื้อโอนเงินมาให้เราค่ะ แต่ Paypal ก็จะเสี่ยงต่อผู้ขายอย่างไทยเราในกรณีที่เราค้ากับ USA และผู้ซื้อใน USA ดันดึงเงินคืนในขณะที่เราส่งของไปแล้ว (ดวงซวยค่ะ -_- ) USA จะชนะเราเสมอเพราะ Paypal เป็นของอเมริกานั่นเอง ทำธุรกิจทุกอย่างมีความเสี่ยงค่ะ

นอกจากนี้ยังไม่เว็บอื่นที่นอกเหนือจาก Alibaba แต่หน้าตาคล้ายๆ Alibaba เลยค่ะ ได้แก่ EC21 เป็นเว็บนำเข้า-ส่งออกออนไลน์อันดับ 2 ของโลก และยังมี TradeIndia , Globalsources , DiyTrade , TaiwanTrade เป็นต้นค่ะ เนื้อหาบางอย่างเราก็ไม่เคยรู้มาก่อน เช่นทำยังไงให้มือใหม่อย่างเราไม่โดนผู้ขาย/ผู้ซื้อใน Alibaba โกงเราได้ หรือ ทำอย่างไรให้ลูกค้าเราใน Alibaba เชื่อว่าเราจะไม่โกงเค้า บางอย่างที่วิทยากรพูดออกมายังต้องทำความเข้าใจอีกเยอะก็มีค่ะ เพราะมันเป็นความรู้ใหม่ๆที่หาไม่ได้ในห้องเรียนจริงๆ ไม่มีใครสอนการตลาดได้ดีเท่าผู้ที่มีประสบการณ์โดยตรงหรอกค่ะ เราต้องเรียนรู้และปรับใช้ในแบบของเราค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาพูดถึงคอร์สสัมมนา Alibaba วันที่ 2 ต่อนะคะว่าเป็นยังไงกันบ้าง ถ้าใครสนใจคอร์ส Alibaba แบบ 2 วัน สามารถดูรายละเอียดได้โดย Click ที่นี่ ค่ะ หน้าตาเว็บไซต์ Highbizz ก็ประมาณนี้ค่ะ


วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

เงินออนไลน์ทำได้แค่คลิก ใครๆก็รวยได้ด้วย Trendyday

จากการที่ไปฟังสัมมนา Affiliate Marketing ที่ทาง Trendy Day และ Office Mate ร่วมกันจัดขึ้น ก็ได้ซื้อหนังสือ "เงินออนไลน์ทำได้แค่คลิก ใครๆก็รวยได้ด้วย Trendyday" มาลองอ่านดูค่ะ เล่มนี้เค้ามีดีตั้งแต่เริ่มต้นเลยค่ะ มีอาจารย์หลายท่านรวมถึงอ.ธันยวัชร์ที่แนะนำหนังสือเล่มนี้เช่นเดียวกัน หนังสือเล่มนี้บอกข้อมูล Affiliate Marketing ตั้งแต่ขั้นตอนการเริ่มต้้นทำ Affiliate และอธิบายถึง Website Affiliate ที่เป็นที่นิยมได้แก่ Amazon, CJ, Clickbank เป็นต้น รวมไปถึงเว็บ Affiliate ในเมืองไทยซึ่งก็คือ  Trendy Day นั่นเอง นอกจากนี้หนังสือเล่มนี้ยังบอกรายละเอียดการสมัครเว็บ Trendy Day  และการนำโฆษณาไปลงยังเว็บของเราค่ะ อ่านแล้วเข้าใจง่าย ไม่อยากอย่างที่คิดค่ะ หนังสือเล่มนี้เขียนโดย คุณ ปภาดา อมรนุรัตน์กุล ค่ะ ถ้าใครสนใจอยากใีหนังสือเล่มนี้ไว้ครอบครองก็สามารถสั่งซื้อหนังสือจาก Link ด้านบนหรือ Click ที่นี่เพื่อทำการสั่งซื้อได้เลยค่ะ

งานสัมมนาของ Trendy Day

ไปงานสัมมนาของ Trendy Day เรื่อง Affiliate Marketing ที่สยาม PRG มาค่ะ บอกได้คำเดียว "คุ้ม!!!" ใครที่ไม่ได้ไปน่าเสียดายมากๆ งานนี้มีคนเข้าร่วมประมาณ 2500 คนค่ะ เค้าจัดที่โรงหนังสยามพารากอนเลย มีวิทยากรทั้งหมด 3 คนและพิธีกรอีก 1 คน อาจารย์ธันยวัชร์ก็เป็นหนึ่งในวิทยากรครั้งนี้ด้วยค่ะ งานสัมมนาครั้งนี้เค้าแจกหนังสือ Office Mate และ นิตยสาร Trendy Day ให้ฟรีด้วยค่ะ ดูกันคุ้มจุใจจริงๆ 

เมื่อพูดถึงเนื้อหา Affiliate ก็ไม่ใช่ว่าเพิ่งเข้ามาในประเทศเรานะคะ หลายคนรู้จักคุ้นเคยและทำรายได้เป็นล้านแล้วก็มี แต่ตอนนี้ Affiliate กำลังเริ่ม Boom ในประเทศไทยเราค่ะ ใครยังไม่รู้จักนี่ตกเทรนด์เลยนะคะ  Affiliate Marketing คือการที่เรานำโฆษณามาลงในเว็บเรา พอคนอื่นมาคลิ๊กโฆษณาของเราและซื้อของชิ้นนั้น เราก็จะได้ค่า Commission จากของชิ้นนั้นค่ะ จะกี่ % ก็แล้วแต่ประเภทสินค้า ทั้งนี้ Amazon เป็นเจ้าแรกที่เริ่ม Affiliate Marketing ค่ะ เค้าไม่ต้องโฆษณาอะไรมากมาย แต่ให้คนอื่นโฆษณาให้แทนโดยการจ่ายค่า Commission ให้ ก็ถือว่า Win-Win กันทั้ง 2 ฝ่ายนะคะ เพราะฝ่ายที่เป็น Sale โฆษณาให้ก็ไม่ต้อง Stock ของและลงทุนใดๆทั้งสิ้น แถมยังได้ค่าคอมด้วย ส่วน Amazon ก็ได้รายได้จา่กการขายของออกนั่นเอง 

แต่การที่จะเป็น Affiliate Marketer ที่ดีนั้น คุณต้องซื่อสัตย์ในสิ่งที่คุณนำเสนอ เช่นคุณ review สินค้า แต่พูดแต่ด้านบวกของสินค้าชิ้นนั้น ไม่พูดถึงด้านลบเลย บวกกับคุณเอาโฆษณาสินค้าชิ้นนั้นมาลงเพื่อให้คนคลิ๊กเข้ามาซื้อ และถ้าเค้าซื้อแล้วใช้ไม่ดีจริงตามที่เรา review ไปนั้น เราก็จะไม่สามารถขายได้ในครั้งต่อๆไปเพราะจะไม่มีใครเชื่อในคำพูดเราอีก ดังนั้นการที่จะประสบความสำเร็จทางด้าน Affiliate Marketing ได้นั้นต้องตั้งใจ review สินค้า พูดออกไปตรงๆ บอกข้อดีข้อเสีย และที่สำคัญเราต้องเลือกว่าสินค้าที่เราจะ review นั้นเป็นสินค้าประเภทอะไร เลือกมาอย่างเดียวและทุ่มเทกับมันค่ะ อย่าหลายใจเลือกหลายอย่าง เพราะการที่เราจะทำให้คนเชื่อได้ เราต้องสัมผัสสินค้าด้วยตัวเองจริงๆ และควรเป็นสิ่งที่เรามีความสนใจ หรือสิ่งที่เราเก่งในด้านนั้นอยู่แล้ว มันถึงจะต่อยอดให้เราได้ บางคนอาจทำ Affiliate เป็นงานอดิเรก แต่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด Affiliate ยากกว่างานอดิเรกค่ะ  ถ้าใครทำ Affiliate เป็นอาชีพหลักแล้วก็จะรู้ว่าจะทำเล่นๆไม่ได้ ไม่งั้นก็จะไม่ได้อะไรเลยและเสียเวลาเปล่า

เว็บ Trendy Day เป็นเว็บที่หลายคนเพิ่งรู้จัก เว็บนี้จะพยายามทำให้เหมือน Amazon ภายในอนาคตค่ะ ตอนนี้อาจจะขายแค่ในประเทศ แต่ปีหน้าเค้าจะบุกตลาดโลกค่ะ อยากให้ทุกคนจับตามองให้ดีๆ เว็บนี้เป็นเว็บแรกๆและมาแรงเกี่ยวกับ Affiliate Marketing ค่ะ ที่สำคัญ Trendy Day กำลังจะจัด Affiliate Workshop ฟรี! ในต้นเดือนมีนาคม 2555 ถ้าใครสนใจก็เข้าไปดูรายละเอียดในเว็บ หรือโทรถามเจ้าหน้าที่ของทางเว็บได้นะคะ งานดีๆและฟรีแบบนี้ไม่อยากให้พลาดกันค่ะ! ส่วนเราไม่พลาดงานนี้แน่นอนจร้าาาาาาาาาา

วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

E-Commerce Sites

ใครอยากเปิดร้านขายของออนไลน์บ้างเอ่ย??????? เราก็เป็นคนนึงนะคะที่อยากเปิดร้านขายของออนไลน์ แต่ ณ ปัจจุบัน มันมีเป็นล้านร้านเลยค่ะ เยอะเหลือเกิน ตอนนี้กำลังระดมหัวสมองอันน้อยนิดว่าจะเปิดร้านขายอะไรดี ไม่แน่อาจจะเริ่มต้นจากของมือสอง เพราะเต็มบ้านเลยค่ะตอนนี้ อยากจะโละออกเหมือนกันค่ะ หรือไม่ก็เปิดร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น อาจจะเป็นพวก Pre-Order เพราะไม่อยาก Stock ของเอง แต่ก็มีข้อเสียที่ว่าของมันอาจไม่แน่นอน ได้ไม่ตรงกับที่เราคาดไว้ก็เป็นได้ ... บางบทความบอกว่าควรเปิดร้านแบบหาตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) เช่น เสื้อผ้าคนอ้วน เสื้อผ้าเด็ก เป็นต้น หรือลองขายของพวก Handmade / DIY ก็อาจจะ work 

แต่ทีนี้การที่เราจะเปิดร้านขายของก็มี 2 วิธีึ่ค่ะ คือเช่า Web ที่เค้ามีบริการ Online Shopping โดยตรง หรือ เปิดเว็บ จดโดเมนเช่า Hosting เอง ซึ่งจริงๆแล้วถ้าเราต้องการแบบ Long-term เราก็ควรจะมีเว็บเป็นของตัวเองไปเลยค่ะ แต่ถ้าอยากลองตลาดก่อนก็สามารถลองไปใช้บริการ Shopping Online Sites ต่างๆได้เหมือนกัน มีหลายเจ้ามากค่ะเช่น Weloveshopping , Tarad , iBuy , KeepMarket เป็นต้น แต่ละเจ้าก็ Popular ไม่ใช่น้อยเลยค่ะ ทุกเว็บจะมีแบบ Free Package จนไปถึงแบบเสียเงิน Function ในแต่ละเแบบก็จะแตกต่างกันไปค่ะ ใครที่สนใจจริงๆ ตอนนี้เริ่มทำก็ยังไม่สายนะคะ ขอเพียงแค่เราขยัน อดทน และซื่อสัตย์ต่อลูกค้า อาจใช้เวลาเป็นปี แต่ความสำเร็จที่ได้มารับรองคุ้มค่าแน่นอนค่ะ!!!

FOB Price คืออะไร

FOB ย่อมาจาก Free On Board ค่ะ ... FOB Price คือราคาของรวมกับค่าจัดส่งสินค้าให้แก่ผู้ซื้อที่ท่าเรือต้นทาง ผู้ซื้อเป็นผู้จ่ายค่าเรือ-ค่าขนส่ง ตั้งแต่เรือออกจากท่าต้นทาง ผู้ซื้อต้องจ่ายราคาค่าขนส่งเองในกรณีนี้ ถ้าตั้งราคา FOB Price สูงเกินไปใน Alibaba ก็ระวังนะคะอาจจะมีแค่คนติดต่อแต่ไม่ได้ซื้อเรา เพราะเค้าก็ดูราคาของเจ้าอื่นด้วยเช่นกันค่ะ

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

EBAY Seminar Update!!

ทาง WiseThailand จะมีการจัดสัมมนา Ebay ขึ้นในวันเสาร์ที่ 28 มกราคมนี้ เวลา 9 โมงถึงเที่ยงนะคะที่ห้อง Auditorium ชั้น 2 อาคาร The Connection (ติดอาคารจอดรถสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลาดพร้าว) ครั้งนี้เค้าจัดเป็นครั้งที่ 27 แล้วค่ะ มีคนเข้าร่วมงานสัมมนาในแต่ละครั้งเป็นจำนวนเยอะมากๆ เรายังไม่เคยไปฟังของที่นี่ แต่ก็อยากให้ทุกคนได้เข้าไปฟังด้วยกันนะคะ สัมมนาฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นค่ะครั้งนี้เป็นครั้งแรกค่ะ ลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรีผ่านระบบ Online คลิ๊กที่นี่ หรือโทรสองถามรายละเอียดเพิ่มเติมไ้ด้ที่ 02-539-5512 , 02-932-257


วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

Affiliate Seminar Update!!!

เพื่อนๆจ๋าาาาา ใครยังไม่รู้ก็รู้ไว้ซะนะว่า!! วันศุกร์ที่ 20 มกราคมนี้จะมีงานสัมมนาเกี่ยวกับ Affiliate จ้า ทาง Trendy Day เป็นผู้จัดงานครั้งนี้ค่ะ ถ้าใครอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดู ที่นี่ ได้เลยค่ะ และถ้าใครสนใจอยากเข้าร่มการสัมมนาครั้งนี้ก็ต้องไปกรอก แบบฟอร์มลงทะเบียน ด้วยนนะคะ งานฟรีๆและมีสาระแบบนีร้ไม่ควรพลาดค่ะ!!! งานนี้จัดขึ้นเวลา 13:00 - 16:30 pm ที่ Paragon จ้า แต่ว่าตอนนี้เค้าบอกว่าที่นั่งครบจำนวนแล้ว แต่ถ้าใครสนใจก็ลงทะเบียนสำรองที่นั่งไว้ก่อนได้ค่ะ และเค้าจะติดต่อกลับมาอีกที :) อย่าพลาดกันนะคะ!! แล้วเจอกันค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

Not Only Alibaba!!

สวัสดีค่ะ วันนี้มีความรู้เกี่ยวกับเว็บใหม่ๆมาแนะนำค่ะ อันนี้ต้องให้ Credit กับหนังสือ "Trade@Home" ด้วยค่ะ ผู้เขียนแนะนำเว็บ Import-Export ที่ไม่ได้มีแค่ Alibaba เท่านั้น แต่ยังมีเว็บของประเทศอื่นด้วยเช่นกันที่ทำ Online E-Commerce ค่ะ ยกตัวอย่างนะคะ เว็บแรกคือ Go4BusinessWorld เป็นแบบ B2B (Business to Business) ค่ะ ซึ่งเป็บเว็บของประเทศอียิปต์นั่นเอง แต่การที่เราจะสมัครสมาชิกในเว็บนี้ได้ต้องจ่ายตังค่ะ สิทธิพิเศษของเว็บนี้ก็คือ ลูกค้าจะมา Post ว่าเค้าต้องการซื้ออะไรและให้ราคาเ่ท่าไหร่ ถ้าเราเป็น Member ของเว็บนี้ เราก็จะสามารถรู้ข้อมูลและสามารถติดต่อกับลูกค้าได้โดยตรง แต่ถ้าใครยังไม่อยากจ่ายตังก็ไปดูเว็บต่อไปกันเลยค่ะ เว็บ EC21 หน้าเว็บจะดูคล้ายๆกับเว็บ Alibaba ค่ะ เว็บนี้ Free Member ค่ะ :) ไม่ต้องเสียตังค่าสมัครใดๆทั้งสิ้น เว็บนี้เป็นของประเทศเกาหลีค่ะ Korea มาเองๆ ต่อไปเป็น IndiaMart ค่ะ เราชอบชื่อเว็บนะ ใครดูก็รู้ว่าต้องเป็นเว็บของอินเดีย แถมยังจำง่ายอีกแน่ะ! ก็สามารถสมัครสมาชิกได้ฟรีค่ะ แล้วก็ลอง Post ของขาย หรือใครสนใจอยากนำเข้าอะไรก็สามารถดูได้ค่ะ ส่วนเว็บสุดท้ายที่จะแนะนำในวันนี้ได้แก่ๆๆๆ ~~~ TradersCity นั่นเองค่าาา เว็บนี้ต้องรู้ไว้อย่างนึงว่า เมื่อเราสมัครเป็นสมาชิกแล้ว เราต้องใส่ Company Profile นิดๆหน่อยๆและเริ่มลงของขาย หรือว่าเริ่มติดต่อขอซื้อ อะไรทำนองนั้นค่ะ เพราะว่า ถ้าเราสมัครทิ้งไว้แล้วไม่ทำอะไรต่อ ทางเว็บก็จะยกเลิก Account เราค่ะ แล้วก็จะส่ง email มาหาเราว่าถ้าต้องการสมัครใหม่ก็ให้กดเข้าไปตาม Link ของเค้า -_- แปลกเนอะ มีการยกเลิก Account กันด้วยแฮะ ลองศึกษาดูนะคะ คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักเว็บพวกนี้ค่ะ ถ้าเข้าใจและจับทางถูกทางด้าน Import, Export, Logistics ... รับรองรุ่งเรืองค่ะ :)

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

Ebay Account ที่ 2

หลังจากที่ Ebay ปลดล๊อก Account อีกอันของเราเรียบร้อยแล้ว เราก็เลยลองวิธีที่แตกต่างจาก Account แรกของเราค่ะ Account อันแรก เราเริ่มขายเลย ไม่สนใจ Feedback แม้ว่ามันจะเป็น 0 ก็ตาม ( ก็มันอยากขายนี่นา >_< ) ผลปรากฎว่าขายไม่ค่อยได้เท่าไหร่ อาจจะอยู่ที่สินค้าด้วย แต่ว่า Feedback ก็มีผลด้วยเช่นกันค่ะ ทำให้ Account แรกของเรายังคงที่ อยู่ Feedback มีแค่ 2 เองค่ะ รออีก 2 Feedback ซึ่งไม่รู้ว่าผู้ซื้อได้รับของรึยัง :( แอบกังวลเล็กน้อยค่ะ แต่ก็ต้องวัดดวงเอา ก็เราเล่นส่งแบบไม่ลงทะเบียนเลยนิ แหะๆ 

ส่วน Account ที่ 2 เราเริ่มจากการซื้อของถูกๆเพื่อเก็บ Feedback ก่อน คิดว่าจะยังไม่ขายค่ะ พอ Feedback เริ่มเยอะเราค่อยเริ่มขาย (เริ่มเยอะของเราก็ประมาณ 50 ค่ะ) เราก็ประมูลพวก Accessories หรือพวก Jewelry ที่สวยๆและราคาเริ่มต้นประมูลไม่ถึงดอลค่ะ บางอันประมูลมาได้ 11 บาท แบบ Free Shipping ด้วย อิๆ แต่ก็ต้องแข่งกับ Bidder คนอื่นเหมือนกัน บางอันชวดไปก็น่าเสียดาย แต่ถ้าเกิน $1 (รวม Shipping ด้วยแล้ว) เราก็จะ Bye Bye เลยค่ะ เพราะเราเอาแค่เก็บ Feedback ไม่ได้ Shopping จริงจัง ดูเอาของที่สวยๆเผื่อเอามาขายต่อในอนาคต อิๆ ตอนนี้ซื้อไปทั้งหมด 6 ชิ้นได้ ได้ Feedback มา 3 แล้ว เร็วกว่า Account แรกอีกง่ะ -_- แต่ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้แหละเนอะ จริงม่ะค่ะ :)

วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555

EBAY Account Reinsteated!!

ในที่สุด Ebay Account ของเราอีกอัน ก็กลับมาใช้การได้ปกติ ดีใจที่สุดเลยค่ะ TT-TT ไม่ติด Suspension แล้ว  ในที่สุดก็ได้ขายของซักที :) แนะนำค่ะว่า เมื่อติด Account Suspension เราควรที่จะ
  1. โทรไปหาทาง eBay แล้วบอกว่า Account Suspension 
  2. เค้าจะส่ง email มาบอกข้อมูลว่าให้เรา Fax เอกสารอะไรไปบ้าง
  3. เรา Fax เอกสารไปตามเบอร์ Fax (เข้าไปส่ง Fax ที่ MyFax ได้ค่ะ)
  4. หลังจากส่ง Fax ให้กลับไป Check email เพื่อ Confirm การส่ง Fax
  5. รอ Email จากทาง MyFax ตอบกลับมาว่าส่งเรียบร้อยแล้ว (สังเกตเวลาที่ส่งด้วย)
  6. Email บอกทาง rswebhelp@ebay.com ว่าเราได้ส่ง Fax ไปแล้วนะ บอกชื่อจริงนามสกุลจริง, email, Ebay ID ของเรา, เวลาที่ส่ง 
  7. รอไม่เกิน 5 วันค่ะ 
ของเราส่งไปวันที่ 7 เค้าตอบกลับมาวันที่ 10 (ก็ประมาณ 3 วัน)  ถ้า eBay Account ใช้ได้แล้ว eBay Customer Support ก็จะส่ง email ที่มีเนื้อหานี้มาให้ค่ะ


Dear   ............,

Thank you for submitting your documentation to eBay in regard to your
account suspension.

I have reviewed the details of this suspension, as well as the
additional information you sent. In light of the information you have
provided, I am pleased to inform you that your account has now been
reinstated.

............, I thank you for your cooperation, and wish you luck with your
future eBay transactions.

Sincerely,
Todd


เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อยค่ะ สำหรับใครที่ติด Account Suspension ก็รอหน่อยนะคะ ทำตามขั้นตอนที่บอกไม่น่ามีปัญหาอะไรค่ะ :)


ลูกค้า Alibaba ติดต่อมา!!

คือด้วยความที่ไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ และไม่มีอะไรเลยในหัว พอลูกค้า Alibaba ติดต่อมา เลยงงเลยค่ะ ลอง Post ของขายเล่นๆ แต่ว่าอยู่ดีๆก็มีลูกค้าจาก Africa message มาถามว่าสามารถส่งให้เค้า 2 kg. ก่อนได้ไม๊ แล้วก็ถามราคา ถามจำนวนขั้นต่ำที่เราสามารถส่งได้ แต่ก็ยังไม่ได้ตอบทันที นอนไม่หลับเลย กลัวตอบ Late และเสียลูกค้า วันต่อมาเลยโทรหา คุณวรเศรษฐ์ ปรึกษาเรื่องมีลูกค้าติดต่อมา พี่แกก็พูดแบบ Chill มากจริงๆค่ะ เค้าบอกว่า "ก็ตอบลูกค้าไปเลยสิครับ กำไรก็แล้วแต่เราเลยว่าจะเอาเท่าไหร่ คำนวณค่าขนส่งให้เค้ารู้ด้วย และก็อย่าไปกลัว ถ้าเงินไม่มา ของก็ไม่ไป" สั้นๆง่ายๆแต่ได้ใจความจริงๆค่ะ >_< จากนั้นสักพักเราก็มานั่งคิดต้นทุน ค่าขนส่ง กำไร แล้วก็บวกลบคูณหารให้เรียบร้อย แล้วก็ message ตอบผู้ซื้อกลับไป ... เราก็เอากำไรเต็มที่เลย แหะๆ ลองดูเผื่อฟลุ๊กค่าาาาาา O_o ตอนนี้ก็รอเค้าตอบกลับมาอยู่ค่ะ แต่ไม่กระวนกระวายแล้ว ดีขึ้นเยอะเมื่อได้คุยกับ Guru ... แต่ยังไงเราก็ต้องถามข้อมูลผู้ผลิตด้วยนะคะ ถ้าเกิดลูกค้าสนใจสินค้าเราและอยากได้ปริมาณมหาศาลล่ะก็ เราควรที่จะรีบตอบสนองลูกค้าค่ะ เพราะโอกาสไม่ได้มีมาหาเราง่ายๆ ต้องไขว่คว้าเข้าไว้ค่ะ :)

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

Alibaba ง่ายหรือยากกันแน่?

เราขอแนะนำนะคะว่าถ้าอยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Alibaba ไม่ควรศึกษาเรียนรู้ด้วยตัวเองคนเดียวเพราะว่าเรายังไม่มีประสบการณ์ เราอาจถูกโกงได้ไม่ว่าเราจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย เพราะว่า Alibaba คือเว็บส่งออกอันดับ 1 ของโลก บางคนอาจจะพูดว่าเคยขายของใน Ebay มาแล้ว ลองขายใน Alibaba ดูดีกว่า แต่! อย่าลืมนะคะว่า eBay มี Buyer Protection ในขณะที่ Alibaba ไม่มีเลยค่ะ เพราะฉะนั้นการ Trade จะขึ้นอยู่กับวิจารณญานของเราล้วนๆ เกิดจาการคุยกับผู้ที่เราทำการค้าด้วย ถ้าเราเป็นผู้ซื้อ เราต้องถามคำถาม basics ก่อนว่า ขายยังไง ขั้นต่ำต้องเท่าไหร่ ส่งตัวอย่างมาก่อนได้ไม๊ มีเว็บบริษัทเป็นของตัวเองรึเปล่า (ไม่ใช่เว็บ Store ของ Alibaba นะคะ เพราะทุกเจ้ามีอยู่แล้ว) ส่งรูป Stock สินค้าที่เราสนใจมาให้ดูหน่อย และที่สำคัญเราต้องเทียบราคาด้วยค่ะ ถ้าบริษัทไหนให้ราคาถูกเกินจริง แนะนำอย่าสั่งจากบริษัทนั้นค่ะ เพราะว่า % โกงสูงมาก ต้องเทียบกับ FOB Price ค่ะ ในเว็บ Alibaba จะมีบอกค่ะว่าราคากลางของสินค้าชิ้นนี้ราคาประมาณเท่าไหร่ เราก็ต้องดูให้ครบถ้วนค่ะ ถ้าใครเคย Search เว็บไทยเกี่ยวกับ Alibaba จะเห็นว่ามันจะขึ้นน้อยมาก ประมาณ 2 หน้าแรกของ Google จากนั้นหน้าต่อๆไปก็ไม่ค่อยพูดถึงเท่าไหร่ ถ้าจะให้ดี เราควร Search เกี่ยวกับ Alibaba เป็นภาษาอังกฤษค่ะ เพราะเนื้อหาภาษาอังกฤษเค้าบอกวิธีทุกอย่างและละเอียดกว่าของไทยอีก -_- มีความรู้ก็น่าจะเอามาแชร์ๆกันเถอะค่ะ คนอื่นจะได้รวยบ้าง ^O^

วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2555

สัมมนา Thaisem

วันนี้ไปฟังสัมมนามาแล้วค่ะที่ตึกฟอจูนทาวน์ชั้นใต้ดิน ไปสายครึ่งช.ม.แน่ะ แหะๆ ตอนแรกนึกว่าเข้าไปแล้วจะเป็นห้องใหญ่ๆมีเก้าอี้เป็นร้อยๆตัว แต่! ตรงกันข้ามค่ะ เป็นห้องเล็กและมีเก้าอี้ประมาณ 20 ตัว O_O  อึ้งค่ะอึ้ง!! คนไปทั้งหมดไม่เกิน 20 ค่ะ ประมาณ 15 คนได้ แต่ก็เป็นกันเองดีค่ะ วิทยากรก็มีเอกสารให้ แล้วเค้าก็บรรยายอธิบายเกี่ยวกับ Affiliate Program ว่าถ้าเราเพิ่งเริ่มต้น เราควรจะทำอย่างไร อย่างแรกค่ะ เค้าแนะนำให้เราใช้โฆษณาจาก Amazon มาลงเว็บเรา เพราะเป็นอะไรที่ง่ายที่สุดแล้ว เพราะ Amazon ไม่เรื่องมากเหมือน Google Adsense นั่นเอง อิๆ แค่สมัครแล้วไปค้นหา Banner หรือ Widget มาใส่เว็บเรา ถ้ามีคนมาคลิ๊กโฆษณาของ Amazon ในเว็บเราและสั่งซื้อสินค้าชิ้นนั้น เราก็จะได้ค่า Commission ค่ะ ถ้าเป็นพวก Electronic products เราจะได้ค่า Commission 4% ค่ะ แต่ถ้าเป็น Products ชนิดอื่น เราจะได้ค่าคอมตามขั้นบันไดค่ะ แต่ที่เรารู้เพิ่มมาอีกอย่างคือถ้าวันนี้เค้าคลิ๊กผ่านทางเว็บเราและไม่ซื้อ แต่ถ้าวันต่อไปเค้าเข้าเว็บ Amazon แล้วซื้อของใน Category เดียวกันกับที่เค้าดูผ่านเว็บของเรา เราก็จะได้ค่าคอมเช่นกันค่ะ :) สุดยอดมั๊ยล่ะค่ะ แต่ว่า Amazon จะมี Limit แค่ 30 วัน ถ้าเค้าซื้อ Product อื่นใน Category เดียวกันกับที่เค้าดูผ่านโฆษณาของเราภายใน 30 วัน เราก็ได้ค่าคอมค่ะ แต่ถ้าเลย 30 วันไปแล้ว เราก็ไม่ได้อะไรค่ะ  ส่วนเว็บ Affiliate อื่นๆก็จะมี Hotel Affiliate (เช่น ido24) และพวก Affiliate ของประกัน (เป็นที่นิยมของคนยุโรปค่ะ) แต่สิ่งที่เค้าแนะนำคือเราควรจะมีเว็บ Hosting และ Domain เป็นของเราเอง แต่ถ้าเราจะทำ Blog ก็แนะนำเป็น Blogger หรือไม่ก็ Wordpress ค่ะ :) มีเว็บบอร์ด 3 เว็บค่ะที่เราสามารถเข้าไปดูข้อมูลเกี่ยวกับ Search Engine ได้ นั่นก็คือ 
  1. Thaiseoboard
  2. SEM
  3. Thaisem Forum
ทั้งนี้เค้าก็มีคอร์สสอนเรื่อง SEM (Search Engine Marketing) ด้วยค่ะ สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ Thaisem นะคะ ส่วนตัวขอบอกว่าน่าสนใจมากค่ะ ไว้เราเก็บตังก่อนแล้วจะไปเรียนแน่น๊อน!!!

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

ThaiSem

ช่วงนี้มีสัมมนาเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์จัดขึ้นเยอะแยะมากมายเลยค่ะ อย่างวันนี้ Thaisem  ก็มีการจัดสัมมนาหลักสูตร Introduction to Affiliate ฟรีค่ะ เป็นการทำความรู้จักกับ Affiliate มากขึ้น ที่สำคัญสัมมนานี้ไม่ได้จัดแค่วันนี้วันเดียวนะคะ ยังมีวันอื่นและรอบอื่นอีกค่ะ ซึ่งสามารถเข้าไปดูรอบการสัมมนาได้ ที่นี่ ค่ะ ถ้าจะเข้าร่วมสัมมนาก็ต้องสมัครสมาชิกก่อนค่ะ วันนี้เค้าจัดเป็นวันแรก เริ่มอยากรู้แล้งใช้ไม๊คะว่าเนื้อหาของสัมมนามีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ


หลักสูตรอบรมพิเศษ Introduction to Affiliate แนะนำพื้นฐานผู้สนใจธุรกิจ Affiliate ฟรี วันนี้ จำนวนจำกัด เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจธุรกิจ Affiliate Marketing แต่ยังไม่รู้ว่า Affiliate Marketing คืออะไรและจะเริ่มต้นอย่างไร หรือผู้ที่มีพื้นฐานการทำ Affiliate Marketing มาแล้วแต่ยังไม่เข้าใจหลักการทำ Affiliate Marketing ที่ถูกต้อง หลักสูตรนี้จะทำให้คุณเห็นภาพรวมของการทำ Affiliate Marketing ที่ถูกต้อง โดยเรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่น ไม่ต้องเหนื่อย และเสียเวลาเอง รวมทั้งได้แนวทางใหม่ๆ ในการสร้างรายได้ผ่าน Affiliate Marketing และสามารถนำข้อมูลมาประเมินตัวเองว่าคุณเหมาะที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจนี้หรือไม่

วัตถุประสงค์
1. เพื่อแนะนำทางเลือกที่จะสร้างรายได้ด้วยตัวคุณเอง โดยมีรายได้เสริมจากธุรกิจออนไลน์
2. เพื่อแนะนำพื้นฐานอินเทอร์เน็ตมาร์เก็ตติ้งอย่างละเอียด ให้คุณได้เห็นภาพรวมของธุรกิจแบบ ฟรีๆ

สิ่งที่ผู้อบรมได้รับจากหลักสูตร
  • รู้ทันธุรกิจออนไลน์ : เปลี่ยนโลกไซเบอร์ในมุมมองของคุณ ให้เป็นตลาดทำเงิน
  • รู้เร็ว รวยเร็ว : คู่แข่งด้าน Affiliate มีทั่วโลก ศึกษาก่อน มีสิทธิ์ก่อน ลดทอนคู่แข่งไปเยอะ
  • รู้จากปากมืออาชีพ : ได้พบผู้รู้จริงแบบตัวเป็นๆ เจาะลึกยิ่งกว่าอ่านหนังสือรวยออนไลน์ที่กำลังฮิตวางขายกันกลาดเกลื่อน
  • รู้กันเฉพาะเรา : เทคนิคเคล็ดลับมากมาย เทกระจายให้คุณเก็บเกี่ยวไปได้เฉพาะในคลาสนี้
  • รู้หมดเปลือก : จะเปิดกระโหลก หรืองัดจากปากวิทยากรก็ได้ เพื่อให้ตอบทุกข้อสงสัยของคุณ

รอบการสัมมนา
หลักสูตร Introduction to Affiliate เปิดห้องต้อนรับผู้ที่สนใจมาร่วมสัมมนาทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 21.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 13.00 น. แล้วพบกันที่ศูนย์อบรมสัมมนา ThaiSEM โซน Education ชั้นใต้ดิน (ฝั่งโลตัส) ฟอร์จูนทาวน์ โทรศัพท์ 02-6410188-89 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaisem.com
 
P.S. เดี๋ยวจะกลับมาเล่าให้ฟังนะคะว่าบรรยากาศการสัมมนาครั้งนี้เป็นยังไงกันบ้าง

Nuffnang

สวัสดีค่าาาาาา วันนี้มีเว็บมาแนะนำอีกเช่นเคยค่ะ เว็บนี้ชื่อ Nuffnang ค่ะ มี 7 ประเทศที่เข้าร่วม Affiliate Program ของ Nuffnang ค่ะ และประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น พอเราคลิ๊ก Thailand ก็จะปรากฎหน้าเว็บนี้ค่ะ


ก่อนอื่นต้อง Sign up ก่อนค่ะ จากนั้นก็ให้กดที่หัวข้อ Blog ค่ะ แล้วก็จะขึ้นหน้าด้านล่างนี้


 ให้เราไปที่เมนู "จัดการ Blog" เพื่อเพิ่มรายชื่อ Blog ของเราค่ะ จะกี่ Blog ก็ได้ค่ะ เค้าก็จะมีคำถามเกี่ยวกับ Blog ของเราว่าเป็น Blog Style ไหน แล้วก็คำถามจุกจิกนิดหน่อยแต่ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ จากนั้นก็ให้เราเลือกไปที่ "เพิ่มโฆษณา" ค่ะ เพื่อที่เราจะทำการเอาโฆษณาของ Nuffnang ไปใส่ Blog ของเรา :) เค้าก็จะมีบอกขึ้นตอนการนำ Code ไปใส่ Blog ของเราค่ะ ถ้ามีปัญหาสงสัยก็คลิ๊กที่ "ถาม-ตอบ"เมนูด้านขวาบนได้ค่ะ เราจะได้เงินก็ต่อเมื่อมีคนมาคลิ๊กโฆษณาของ Nuffnang ในเว็บเราค่ะ (มันจะคล้ายกับ Google Adsense เลยค่ะ) ขั้นต่ำที่เราสามารถถอนออกมาจากเว็บนี้ได้คือ 500 บาทค่ะ อย่าลืมไปสมัครกันนะคะ :)

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

Trendy Day

เป็นอีกหนึ่งเว็บนะคะที่เป็นทั้งแหล่ง Online Shopping และที่ๆเราสามารถทำ Affiliate ได้ เว็บนี้เป็นเว็บของคนไทยค่ะ พอเข้าที่ที่หน้าเว็บก็จะปรากฎหน้านี้ค่ะ


จากนั้นเราก็เริ่มสมัครสมาชิกกันเลย (ปุ่มสมัครสมาชิกจะอยู่มุมด้านขวาบนค่ะ) พอสมัครสมาชิกเสร็จถ้าเราจะสมัคร Affiliate เราก็สามารถคลิ๊กไปได้ที่ "บริการ" (ปุ่มบริการจะอยู่ด้านซ้ายบนค่ะ) แล้วก็เลือก Affiliate Program ค่ะ เค้าก็จะให้เรากรอกข้อมูลของเรา เราก็ต้องใส่ชื่อธนาคารและเลขบัญชีธนาคารด้วยค่ะ เพราะเว็บนี้เค้าจ่ายให้ทางธนาคารเท่านั้นค่ะ ยังไม่หมดแค่นี้ค่ะ พอเราสมัครเสร็จแล้ว เราต้องส่งเอกสารทางจ.ม.ไปให้เค้าด้วยซึ่งได้แก่
  • 1. สำเนาบัตรประชาชน (เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)
  • 2. สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝาก มาเพื่อการอนุมัติสถานะสมาชิก (เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)
  • 3. ใบนำส่งเอกสารประกอบการสมัคร ( เค้าจะมีให้ Download ค่ะ)
 แล้วก็จัดส่งไปตามที่อยู่นี้ค่ะ

Trendyday Affiliate (แผนก E-Business)
24 อาคารอุ่นใจ ซ.อ่อนนุช 66/1
สวนหลวง สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250

จากนั้นก็รอเค้าอนุมัติค่ะ แค่นี้ก็เรียบร้อย :) แต่ระหว่างที่เรารอเค้าอนุมัติ เราก็สามารถนำ Product Link, Widget, หรือ Banner จาก Trendy Day ไปติดที่เว็บเราได้เลยค่ะ ถ้ามียอดเข้า เค้าก็จะบันทึกเก็บไว้ค่ะ ขอให้ร่ำให้รวยกันเยอะๆนะคะ แล้วมา Update กันด้วยค่าาาาา


วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

Update EBAY

ที่เคยบอกว่าขายพัดสีสวยๆได้แต่ลูกค้ายังไม่มีวี่แววจ่ายเงินมา เราก็เลยเปิด Unpaid Case กับทาง eBay ไป หลังจากนั้น eBay ก็แจ้งเราว่าถ้าลูกค้ายังไม่จ่ายเงินภายในวันที่ 6 เราก็สามารถ Cancel รายการนี้ได้ แล้วก็จะได้ Fees คืน เราก็แบบเอาวะ! รอถึงวันที่ 6 ก็ได้ ... จากนั้นตอนเช้านี้มา Check อีกที ปรากฎว่าลูกค้าจ่ายเงินมาแล้วค่าาาาาา YEH!!! นึกว่าจะชวดเงินซะแล้ว ตั้งราคาประมูลไว้ที่ $6.19 ค่ะ แล้วมีคน Bid แค่คนเดียว ก็เลยต้องขายที่ราคานี้ค่ะ ดีจายมากมายยยยยยยย ขายออกอีกชิ้น ที่เหลือตอนนี้ก็ต้องส่งของค่ะ :) เดี๋ยวจะส่งของให้ลูกค้าพรุ่งนี้ เฮ้อ ขายแต่ละชิ้นมันยากจัง แต่เราก็ไม่ท้อค่ะ ต้องพยายามต่อไปเพราะเราได้กำหนดอนาคตเราไว้แล้ว!! เราเพิ่งมาตระหนักได้ว่า เราควร post ของขายให้มันเป็นเวลามากกว่านี้ อย่า Post ตามใจเรา ตัวอย่างนะคะ ถ้าเรา Post ตอนบ่าย 2 ของบ้านเรา ถ้าเป็นที่อเมริกาก็ประมาณตี 1 -_- แล้วแบบนี้ใครเค้าจะมานั่งดูของเราล่ะ เนอะ แต่ถ้าเรา Post ตอนสายๆอย่างเช่น 9-10 โมงเช้า ที่นั่นก็แค่ดึกๆแบบ 2-3 ทุ่ม อันนั้นน่าจะ Work กว่า ก็เป็น Tips เล๋กๆนอยๆที่เราสามารถนำไปแก้ไขได้ค่ะ :)

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

Flixya ... บางคนอาจยังไม่รู้

เข้าไปอ่านบอกร์ด ด้อมๆมองๆค่ะ ตอนแรกก็งงเค้าเขียนกันถึง Flixya เราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร -_- แต่ในที่สุดก็ทราบว่า Flixya มันเป็นเว็บพวก Social Network ค่ะ พอเราสมัครแล้วเค้าจะมีให้เราอัปโหลด รูปภาพ วีดีโอ Blog เป็นต้น แล้ว(เมื่อก่อน)ยังสามารถสมัคร Google Adsense ผ่านทาง Flixya ได้ด้วย!! ส่วนมาก Google Adsense จะให้ผ่านค่ะ พอมีคนคลิ๊กดูสิ่งที่เรา Upload ลงใน Flixya เราก็ได้ตังค์จาก Google Adsense ค่ะ :)

!!!แต่!!!

ตอนนี้สมัคร Google Adsense ผ่านทาง Flixya ไม่ได้แล้วนะคะ เพราะเราลองเข้าไปสมัครดูแล้ว มันก็ขึ้นข้อความแบบนี้ค่ะ ...

"Due to unforeseen circumstances, Google has terminated Flixya from the Google Adsense API. We will no longer serve Google Adsense ads around your content."
Flixya Support

อืมก็เป็นที่ทราบกันแล้วนะคะ ถ้าใครอยากสมัคร Flixya เพราะเหตุนี้ ก็ไม่แนะนำนะคะเพราะคุณจะเสียเวลาเปล่าค่ะ :) ส่วนเว็บที่เรา Search ใน Google เกี่ยวกับ Flixya นั้นคือเว็บเก่าๆค่ะ เค้าไม่มีการ Update เลย อยากรู้ว่าจริงหรือไม่ ลองเข้าไปอ่านเว็บนี้ดูนะคะ Click ที่นี่

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2555

Fax เรื่อง Account Suspension MC115

เกริ่นนิดนึงก่อนนะคะ เนื่องจากเราสมัคร EBAY อีกหนึ่ง account โดยใช้ K Webshopping Card แล้ววันต่อมาเราก็โดน Account Suspension รหัส MC115 ค่ะ เราก็เลยต้องส่ง Fax ข้อมูลของเราไปให้ทาง EBAY ค่ะ เอกสารที่เราส่งไปก็จะมี
  1. ใบปะหน้า
  2. สำเนาบัตรประชาชน
  3. สำเนาใบขับขี่
  4. สำเนาทะเบียนบ้านที่เป็นชื่อเรา
  5. ข้อมูลบัตร K webshopping card\
แต่ละสำเนาก็แปลเป็นภาษาอังกฤษให้เค้าด้วยค่ะ :) แล้วเราก็ save รวมเป็น PDF File ไปเลย จากนั้นเราก็เข้าไปที่ MyFax และ FaxZero เพื่อทำการ attach ไฟล์ของเราแล้วก็ส่งไปค่ะ สำหรับเบอร์ Fax ของทั้ง 2 เว็บนี้จะไม่เหมือนกันนะคะ (MyFax - 8018807854 , FaxZero - 8018807018) เมื่อเราก็ Send แล้วเค้าก็จะส่ง Confirmation มาที่ email เราเพื่อให้เรากด Confirm ทาง email เราอีกทีค่ะื :) จากนั้นก็รอซักพักเค้าก็จะส่งกลับมาว่า ส่ง Fax สำเร็จแล้ว (ถ้าไม่สำเร็จเค้าก็จะบอกเหตุผลค่ะ เราก็อาจต้องไปแก้ใหม่) จากนั้นเมื่อส่ง Fax สำเร็จแล้ว ก็ส่ง email ไปที่ rswebhelp@ebay.com เขียนไปว่า

Hi Ebay Team,
My ebay id is .....
I have fax to you at 8018808754 and 8018807018 on (Saturday, September 10, 2011 22:33 PDT)
and I have attach file for appeal MC115 to you please see.
Please and Please review and reinstate my account
Thank you for your all kindness

เท่านี้ก็เรียบร้อยค่ะ ใครอยากดูข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่เข้าใจอะไรก็สามารถ Click ที่นี่ ได้เลยค่ะ ตอนนี้เราก็กำลังรอคำตอบจากทาง Ebay อยู่ หวังว่าเค้าจะปลด Account Suspension ของเราให้เร็วๆ >_<

วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555

ลูกค้า eBay ยังไม่จ่ายตัง :(

ทำไงดีถ้าลูกค้า Bid ชนะแต่ยังไม่จ่ายตัง ?? เราก็มือใหม่ Feedback ก็มีแค่ 2 เองค่ะ ตอนนี้รอมา 3 วันแล้วไม่มีวี่แววเลย ส่ง invoices ไปตั้ง 2 ครั้ง + message นิดๆหน่อยๆ แต่ No responses เลยค่ะ :( ยังไม่กล้าเปิด Unpaid Case เพราะยังใหม่อยู่กลัวมีปัญหาลูกค้าให้ Negative Feedback ยังไงไม่รู้ จริงๆเราไม่ care ก็ได้นะเพราะเราไม่เสียค่าธรรมเนียมในการโพสต์สินค้าชิ้นนี้ (ของเราอยู่ใน 50 ชิ้นแรกแบบประมูลค่ะ) คิดอยู่ว่าจะรอให้ครบ 10 วันดูว่าจะจ่ายมารึเปล่า ถ้าไม่จ่ายมาก็คงจะ Cancel ไปค่ะแล้วค่อย list ใหม่ก็ไม่เสียหาย ระหว่างนี้ก็ลองลง items ตัวอื่นไปเรื่อยๆ แต่แล้วปัญหาที่เจออยู่ก็คือถูกลิมิต 30 วัน (ปัญหาเยอะแยะจริง -_- ) มันบอกว่าเราลงสินค้า Category เดียวกันบ่อยเกินไป เราก็เลยลองเปลี่ยนไปลง Category อื่นค่ะ ก็ลงไปได้ประมาณ 2-3 ชิ้น มันก็แจ้ง Limit อีกแล้ว ตกลงแกจะเอายังไงกับช้านนนนน ให้โอกาสมือใหม่บ้างสิยะะะะะะ :( ตอนนี้เราก็คงยังทำอะไรไม่ได้ ต้องรอให้มี Feedback เยอะขึ้นก่อนแล้วจะแก้เรื่องอะไรก็ค่อยส่งไป เฮ้อขอให้ปัญหามันจบไปเร็วๆเถ๊อะะะะะ สาธุ!